การสูญเสียคนที่เรารักมันช่างทรมานมากจริงๆนะ ภาพทุกภาพในวันนี้มันยังอยู่ในหัวสมองโง่ๆของชั้น..เสาไฟต้นหนึ่งทับลงมาที่หัวของน้องสาวคนละพ่อคนละแม่(เป็นลูกแม่เลี้ยง) สภาพศพน้องไม่เหลือความสวยไว้ได้เลย..ทะเล ทะเลที่ใครว่าสวยงามแต่บางครั้งมันก็กลับเอาความสวยนั้นมาหลอกตาเท่านั้นเอง..ไม่ว่าจะกี่ศพที่นอนไร้ญาติพี่น้องซึ่งบางทีเค้าหรือเธอที่อยู่ตรงนั้นอาจตายอยู่ข้างกันก็เป็นได้..ชีวิตที่เพิ่งคุยกันเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม "เจ๊..เราจะไปเที่ยวทะเลลงเรืออันดามันกันปีใหม่ดีกว่านะ..น้องสาวว่า.."เพียงแค่นั้นที่ได้คุยกัน น้องถึงก่อนรถบีเอ็มที่น้องขับไปหัวใจชั้นแทบสลายเมื่อเปิดดูข่าวขณะที่เรากำลังเลี้ยงวันคริสมาส..คลื่นที่เราไม่เคยรู้จักเลยในชีวิตมันมาเพียงชั่วครู่..ทุกอย่างเบื้องหน้าเรียบร้อยในสภาพที่เละเทะ 6 ชั่วโมงที่ขับรถ จะเหยียบเท่าไหร่ไม่ว่าขอแค่ได้พบว่าน้องยังมีชีวิตอยู่..เขาหลัก เขาหลักจริงๆที่หายไปในทะเลแล้วบางส่วน กับทุกคนที่รอวันปีใหม่..ติดต่อใครก็ไม่ได้สัญญาณถูกตัดขาดออกจากกัน ระบบไหนที่ว่าแน่ก็ยังยอมแพ้..ไมทันไรก็ได้รับโทรศัพท์จากคนที่บ้านว่าคุณแม่บินมาจากออสเตรเรียเพื่อมาหาแต่ตอนนี้ไปรอที่ป่าตองและท่านน่าจะเสียที่ป่าตองแน่แล้วว เพราะที่นั่นก็ไม่น้อยเลยกับศพที่พบ..คนเดียวในนาทีนั้นที่ต้องหาคือพ่อของชั้น โชคยังเข้าข้าง ที่ได้พบท่านที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ความเหนื่อยจากการขับรถเอง ข้ามจังหวัดมาเพื่อหาคนที่รักที่สุด..ร้องไห้จนแทบขาดใจ..น้าชายอยู่กรุงเทพได้แต่เตรียมรถตู้ลงไปรับศพน้องและคุณแม่ คุณแม่ที่ชั้นได้เจอเพียง 3ครั้ง ไม่มีแม้แต่การเรียกท่านว่าแม่..ไม่มีแม้แต่จะบอกว่าแม่ไม่ต้องห่วงนะอยู่ทางนี้มาม๊ากับป๊ารักลูกดีมั่กๆ..หัวใจที่ไร้เรี่ยวแรงไม่ต่างจากน้ำมันรถที่ไม่ได้เติมเลย มองทางไหนมีแต่ศพ ศพและศพ คนร้องไห้ การพลัดพราก..ได้แต่คิดว่าทำไมต้องเป็นชั้น ทไมคุณแม่ไม่บอกว่าท่านจะกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว..เพราะอะไร..
มาวันนี้แม้ว่าเรื่องต่างๆจะผ่านมาแล้ว..มันก็ไม่ลืมเลยทุกครั้งที่มองข้างหน้าทุกครั้งที่ขับรถได้แต่บอกตัวเองทำไมไม่ห้ามน้อง ทำไมไม่เป็นเราเอง ทำไมต้องเป็นคนที่เรารอคอย..
****เฮ่อ..จะลืมได้วันไหนก็ไม่รุ้เลยยยยย****